แม้ผลงานในลีกจะกำลังย่ำแย่อย่างหนัก แต่ในบอลถ้วยยุโรปรายการนี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาผลงานได้เป็นอย่างดี เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ไปได้อีกครั้ง ด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งเท่ากันกับผลในนัดแรก โดยได้ 2 ประตูติดกัน จาก 2 แข้งเจ้าเก่า ที่ยิงประตูในเกมแรกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่งผลให้พวกเขาทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020/21
ลิเวอร์พูล 2-0 แอร์เบ ไลป์ซิก
(รวมผล 2 นัด : ลิเวอร์พูล 4-0 แอร์เบ ไลป์ซิก)
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020/21 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พบกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งเกมนี้ใช้สนามกลางในการแข่งขัน โดยไปหวดกันที่สนาม ปุสกัส อารีน่า กรุงปูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยผลนัดแรก ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อน ด้วยสกอร์ 2-0
นาทีที่ 6 หงส์แดงได้ทักทายก่อน ซาดิโอ มาเน่ ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกหลังไป
ต่อมา นาทีที่ 10 ยุสซุฟ โพลเซ่น ตวัดบอลให้ ดาเนียล โอลโม่ ได้ยิงในเขตโทษ แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ พุ่งบล็อกเอาไว้ได้ทัน
นาที 19 ดีโอโก้ โชต้า ขึ้นโขกลูกเตะมุม แต่ ปีเตอร์ กูลัคซี่ กระโดดปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม
นาที 24 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองจากจังหวะโต้กลับเร็ว ติอาโก้ อัลคันทาร่า เปิดบอลขึ้นหน้าให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวจากกลางสนาม ก่อนเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ ทว่าจังหวะสุดท้าย กลับยิงด้วยซ้ายไปติดเซฟของ ปีเตอร์ กูลัคซี่
นาที 32 เควิน คัมเพิ่ล ปั่นโค้งด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ พุ่งรับบอลไว้ได้ จากนั้น เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ได้โอกาสยิงในเขตโทษ แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไป
ถัดมา นาที 41 ดีโอโก้ โชต้า พาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนสับไกด้วยขวา ทว่า ปีเตอร์ กูลัคซี่ ยังป้องกันเอาไว้ได้
จบครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ทีม ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง นาที 65 ไลป์ซิก ได้ลุ้น จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ได้โหม่งลูกเปิดเข้าเขตโทษ แต่บอลลอยไปชนคานเต็มๆ
GOAL!! แต่แล้ว ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาที 71 ดีโอโก้ โชต้า ไหลบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หาจังหวะซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสา เข้าไปตุงตาข่าย หงส์แดง ออกนำ 1-0
GOAL!! จากนั้น นาที 74 ทีมดังจากอังกฤษ ก็ได้ประตูที่สองตามมาติดๆ ดิว็อค โอริกี้ ครอสบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษ แล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ แหย่เท้าจิ้มบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น ลิเวอร์พูล ที่เอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ไปได้อีกครั้งด้วยสกอร์เดิม 2-0 รวมผล 2 นัด หงส์แดง ชนะ 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน >> 6.5
ไม่ค่อยเจองานยากเท่าไหร่ เนื่องจากคู่แข่งเนขึ้นอีกฝั่ง เกมรุกก็ไม่ค่อยมีจังหวะเติมขึ้นไป
ฟาบินโญ่ >> 8
กลับมาเล่นในตำแหน่งที่ถนัด และก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก ช่วยเกมรับได้ดีมาก ทั้งการดักสกัด และการแย่งบอล ทำได้เนียนตา
ติอาโก้ อัลกันตาร่า >> 7.5
วันนี้ฟอร์มค่อนข้างดี เด่นทั้งเกมรับ และรุก แถมเกือบทำแอสซิสต์ได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่เพื่อนดันยิงไม่เข้า
จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม >> 7
เป็นตัวปิดทองหลังพระ ทำให้ไม่ค่อยโดดเด่น แต่ก็ช่วยให้แดนกลางสมดุลย์ และช่วยเกมรับได้หลายครั้ง
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ >> 7.5
ฟอร์มดีขึ้นกว่านัดก่อนๆ แถมยังมายิงประตูขึ้นนำให้ทีม ช่วยให้มั่นใจขึ้นเยอะ เกมนี้น่าจะยิงได้มากกว่าหนึ่งลูกด้วยซ้ำ
ซาดิโอ มาเน่ >> 7.5
ครึ่งแรกยังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มติดๆ ขัดๆ ทำอะไรก็ผิดพลาด ทว่าครึ่งหลังเริ่มจับจังหวะได้ และก็มายิงประตูปิดกล่องให้ทีม
ดิโอโก้ โชต้า >> 6.5
มีจังหวะจบสกอร์หลายครั้ง แต่ก็พลาดไปหมด ดีที่ยังมาแก้ตัวด้วยการแอสซิสต์ให้กับ ซาลาห์
สำรองที่ได้ลงเล่น
ดิว็อค โอริกี้ >> 6.5 (แทน โชต้า น. 71)
ลงสนามมาไม่นานก็แอสซิสต์เลย แถมยังเกือบยิงประตูได้อีกด้วย
นาบี เกอิต้า >> 6.5 (แทน ติอาโก้ น. 72)
ลงมาแล้วแดนกลางดูคึกคักขึ้น แถมยังจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อนลุ้นทำประตูได้ถึง 2 ครั้ง
เจมส์ มิลเนอร์ (แทน ไวจ์นัลดุม น. 82)
ไม่สามารถให้คะแนนได้
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (แทน มาเน่ น. 90)
ไม่สามารถให้คะแนนได้
คอสตาส ซิมิคาส (แทน โรเบิร์ตสัน น. 90)
ไม่สามารถให้คะแนนได้
รับชม บอลสด ถ่ายทอดสด ฟุตบอลทุกคู่ ทุกลีกดัง ต้องที่นี้ Trafficfootball : 👉🏻 ดูบอลสด
ดูประวัติข้อมูลและการเคลื่อนไหว วงการฟุตบอล
- “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล <<
- แอร์เบ ไลป์ซิก <<