banner1
banner2

บู๊แหลก!! 5 ประเด็นร้อน ก่อนแดงเดือดอาทิตย์นี้ 02/05/2564

บู๊แหลก!! 5 ประเด็นร้อน ก่อนแดงเดือดอาทิตย์นี้ 02/05/2564

ถือเป็นแมตช์ที่แฟนบอลจับตามองและเฝ้ารอคอยสำหรับเกมแดงเดือด ระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด ปะทะคู่อริ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในคืนวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.30 น. ถ่ายทอดสดให้ชมฟรีทาง เว็บดูบอล Trafficfootball

สำหรับสถานการณ์ก่อนลงสนาม ทั้งสองทีมแทบหมดลุ้นแชมป์แล้ว แต่ต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายที่ยังต้องลุ้น โดย แมนยู ยังต้องรักษาตำแหน่งรองจ่าฝูง ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังไล่ล่าพื้นที่ท็อปโฟร์ ซึ่งเป็น “เป้าหมายเดียว” ที่เหลืออยู่ของพวกเขาในฤดูกาลนี้

และที่สำคัญคือเรื่องของ “ศักดิ์ศรี” ซึ่งทั้งคู่พร้อมหวดกันไฟแล่บ ไม่มีใครยอมใครแน่นอน แต่ก่อนอื่นนั้น เรามาอุ่นเครื่องกันด้วยประเด็นสำคัญของแดงเดือดแมตช์นี้กันก่อน

ผีแดงกำลังเฮี้ยน!
อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กลายเป็น “คืนผีโหด” เมื่อ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาลูกทีมระเบิดฟอร์มเปิดบ้านไล่ขยี้ โรม่า 6-2 ในเกมยูโรป้าลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เล่นเอาทีมเยือนหาทางกลับกรุงโรมแทบไม่ถูก

ทั้งนี้ นับเป็นชัยชนะเกมที่ 5 จาก 6 นัดหลังสุดในทุกรายการของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งแน่นอนว่า บรรยากาศในทีมของพวกเขาตอนนี้น่าจะคึกคักมั่นใจกันสุดๆ และการถล่ม โรม่า อาจเรียกได้ว่าเป็นการ “ยิงขู่หงส์” ซึ่งเดอะค็อปอาจต้องมีหวั่นๆกันบ้างล่ะ

ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาแนวรุกของแมนฯ ยูไนเต็ดก็ฟอร์มกำลังดีกันหลายคน โดยเฉพาะดาวยิงต่างวัย เอดินสัน คาวานี่ และ เมสัน กรีนวู้ด ที่ช่วงหลังผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ยังคงเป็นทีเด็ดให้กับทีมได้ทุกเมื่อ รวมถึง ปอล ป็อกบา ซึ่งกลับมาโชว์ฟอร์มให้แฟนบอลผีแดงยก “นิ้วโป้ง” ให้อีกครั้ง หลังจากมีบางช่วงที่เด็กผีพร้อมใจกันยก “นิ้วอื่น” ให้กับป็อกบาโดยมิได้นัดหมาย (อิอิ)

หงส์แดงพลาดไม่ได้
ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังติดเครื่องพุ่งกระฉูด ลิเวอร์พูลกลับโชว์ฟอร์มให้เดอะค็อปต้องพากันกุมขมับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกมลีก 2 นัดหลังสุด ซึ่งทำได้แค่เสมอกับ ลีดส์ และ นิวคาสเซิ่ล 1-1 ทั้งสองนัด

ที่สำคัญคือทั้งสองนัดดังกล่าว ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ยิงนำคู่แข่งไปก่อน แต่กลับไร้วิญญาณเพชฌฆาตที่จะปลิดชีพศัตรู และในที่สุดก็โดนคู่แข่งตามตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม ทำให้พลาดโอกาสเก็บแต้มไล่จี้ท็อปโฟร์อย่างน่าเสียดาย โดยวินาทีนี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 6 ของตาราง ตามหลังอันดับ 4 เชลซี อยู่ 4 แต้ม

ลองนึกภาพดูว่า ถ้าเกมแดงเดือดวันอาทิตย์นี้พวกเขาโดนไล่ยิงกระจุยกระจาย-ขวัญกระเจิงกลับมาอีก บรรยากาศในแอนฟิลด์จะระส่ำระสายแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกก็จะยิ่งทวีความยากมากขึ้นไปอีก

แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าแข้งหงส์บุกไปปราบผีได้สำเร็จ นี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ความมั่นใจและโมเมนตัมต่างๆ กลับคืนมาสู่ทีม ซึ่งจะส่งผลดีต่อไปยังภาระกิจไล่ล่าท็อปโฟร์อย่างแน่นอน

แมนยูสถิติข่ม
นอกจากแต้มและอันดับในตารางที่เหนือกว่าแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีผลงานที่ดีกว่าในการลงสนามเจอกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี

ซีซั่นนี้ ทั้งสองทีมลงดวลแข้งกันมาแล้ว 2 นัด โดยนัดแรกเป็นเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งทีมผีแดงบุกไปยันเสมอ 0-0 ที่แอนฟิลด์ จากนั้นเป็นเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังเฉือนชนะไปแบบดุเดือด 3-2

ขณะเดียวกัน เมื่อได้เล่นในโอลด์แทรฟฟอร์ดของตัวเอง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล มาตลอด 8 นัดหลังสุดในทุกรายการ ด้วยผลงานชนะ 4 เสมอ 4 โดยครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูลบุกมากระชาก 3 แต้มกลับบ้านได้ต้องย้อนไปไกลถึงวันที่ 16 มี.ค. 2014 หรือกว่า 7 ปีมาแล้ว ซึ่งเกมนั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาลูกทีมหงส์แดง บุกไปถลุงเด็กๆของเดวิด มอยส์ 3-0

ขณะเดียวกัน หากมองไปที่ตัวผู้จัดการทีม ถึงแม้ โซลชา จะยังไม่เคยพาทีมสัมผัสแชมป์ใดๆ แต่ถ้าดูสถิติการดวลฝีมือกันนั้น “น้าโอเล่” ไม่ได้เป็นรอง เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยแม้แต่น้อย โดยทั้งคู่เคยวัดกึ๋นกันมาแล้ว 5 นัดในทุกรายการ ผลคือ โซลชาและคล็อปป์พาทีมเก็บชัยชนะได้ฝั่งละ 1 นัด และเสมอกันอีก 3 นัด

เกมตัดสินแชมป์ ?
ก่อนลงสนามนัดนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอันดับสองของตาราง ตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 แต้ม ในขณะที่เหลือโปรแกรมเตะอีก 5 นัด

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ มีโปรแกรมบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 1 พ.ค. ซึ่งถ้าหาก ทีมเรือใบสีฟ้าบุกไปเก็บ 3 แต้มออกมาได้ และทีมผีแดงเกิดพลาดท่าพ่ายคาบ้านขึ้นมาในเกมแดงเดือดวันอาทิตย์ แมนฯ ซิตี้จะทิ้งห่างไปเป็น 13 แต้ม และเหลือเกมเตะอีก 4 นัด นั่นเท่ากับว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และลูกทีม จะการันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที!!

ไม่ปฏิเสธว่า แชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้แทบจะอยู่ในมือนักเตะแมนฯ ซิตี้แล้ว แต่อย่างน้อย การพยายามยื้อเอาไว้ให้ได้นานที่สุด ก็น่าจะดีกว่าการปล่อยให้อริร่วมเมืองได้ฉลองแชมป์แบบง่ายๆ

ยิ่งถ้ามาแพ้คู่อริเบอร์ 1 อย่างลิเวอร์พูล พร้อมๆกับการมองคู่อริร่วมเมืองฉลองแชมป์กันตาปริบๆ สาวกเรดอาร์มี่ทั่วโลกจะ ปวดใจดังไฟสุมทรวงทะลวงอกฉัน มากขนาดไหน

ขัดคีย์บอร์ดรอสงครามโซเชียล
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในตอนนี้ ส่งผลให้ลักษณะการเชียร์ของแฟนบอลไทยต้องเปลี่ยนไป เพราะเราคงไม่สามารถนัดเพื่อนฝูงมารวมตัวดูบอลกันได้ หรือการออกไปรวมตัวชมถ่ายทอดสดตามร้านอาหาร หรือสถานบันเทิง ก็คงทำไม่ได้แล้วเช่นกัน

นั่นทำให้แดงเดือดในวันอาทิตย์นี้จะเป็นแดงเดือด ที่แฟนบอลไทยติดตามชมถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้านกันเป็นส่วนใหญ่ และนั่นหมายความว่า ช่องทางสำคัญ หรือ สมรภูมิหลักที่แฟนบอลจะได้มาเปิดศึก เกทับบลัฟแหลก วิพากษ์วิจารณ์ หรือระบายอารมณ์กันนั้นก็คือ โซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งแต่เดิมก็เดือดอยู่แล้ว แต่เกมนี้คาดว่าจะยิ่งดุเดือดเลือดพล่านมากขึ้นไปอีก แถมช่วงเวลาลงสนามก็กำลังดี “สี่ทุ่มครึ่ง” ซึ่งไม่ดึกจนเกินไป

เรียกว่า องค์ประกอบต่างๆ ล้วนพอเหมาะพอเจาะที่จะทำให้สมรภูมิโซเชียล “ลุกเป็นไฟ” ทั้งในระหว่างเกมและหลังจบเกม และเชื่อว่าตอนนี้แฟนบอลทั้งสองทีมน่าจะเริ่มขัดคีย์บอร์ดรอกันแล้ว

ขณะเดียวกัน ตอนนี้ Trafficfootball เป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ทุกคนได้เข้าพุดคุย เม้าท์มอย หรือสร้างคอมมูนิตี้กันได้ในทุกเรื่องราวและไลฟ์สไตล์

ย้ำอีกครั้ง!! ศึกพรีเมียร์ลีก เกมแดงเดือด “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ปะทะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. ลงสนามเวลา 22.00 น. ชมถ่ายทอดสดฟรีได้ทาง Trafficfootball

>>> ดูบอลสด คลิกที่รูปได้เลย <<<

   ———————————- ดูฟรี ทุกคู่ ทุกลีก ———————————-

รับชม บอลสด ถ่ายทอดสด ฟุตบอลทุกคู่ ทุกลีกดัง ต้องที่นี้ Trafficfootball :  👉🏻   ดูบอลสด
ดูประวัติข้อมูลและการเคลื่อนไหว วงการฟุตบอล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทุกข่าวทุกเรื่องราวทุกการเปลี่ยนแปลงของ วงการฟุตบอล Hot News: ข่าวกีฬา   ข่าวฟุตบอล  ตลาดลูกหนัง

แสดงความคิดเห็น

• เรื่องน่าสนใจ •

3 แข้งพรีเมียร์ฯ อาจย้ายสัญชาติ หลัง “เซาธ์เกต” ไม่เรียกติด “ทีมชาติอังกฤษ”

3 นักเตะจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจพิจารณาเปลี่ยนสัญชาติ หลังไม่ถูก แกเรธ เซาธ์เกต...