รายการ : พรีเมียร์ลีก 2020/21
แมตช์การแข่งขัน : ไบรท์ตัน VS เอฟเวอร์ตัน
วัน/เวลาแข่งขัน : คืนวันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 เวลา 02:15 น.
สนาม : ดิ เอเม็กซ์ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : Trafficfootball
สภาพความพร้อม ไบรท์ตัน
“นกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 16 ของตาราง แข่ง 30 นัด มี 32 แต้ม ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เมื่อตอนนี้มีแต้มมากกว่าโซนแดง อยู่เพียง 6 แต้ม แม้ว่าจะคว้าชัยได้ 2 จาก 3 นัดหลัง แต่เกมล่าสุด พวกเขาก็บุกไปพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ เกรแฮม พอตเตอร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ทาริค แลมพ์ตี้ย์ และ ซอลลี่ มาร์ช ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ อารอน คอนนอลลี่, อดัม เว็บสเตอร์ และ ฟลอริน อันโดนี่ ต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่แกนหลักที่เหลือ ยังคงอยู่กันพร้อมหน้า
โดย 3 เซนเตอร์แบ็กเป็น เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์ และ แดน เบิร์น วิงแบ็ก 2 ข้างใช้ ปาสกาล กรอสส์ และ ยาคุบ โมเดอร์ เติมเกม คู่มิดฟิลด์ส่ง อีฟส์ บิสซูม่า กับ อดัม ลัลลาน่า ลงประสานงานกัน โดยมี เลอันโดร ทรอสซาร์ คอยปั้นเกมรุกให้ นีล โมเปย์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นตัวจบสกอร์
สภาพความพร้อม เอฟเวอร์ตัน
ส่วนผู้มาเยือนอย่าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 8 ของตาราง แข่ง 29 นัด มี 47 แต้ม ผลงานในช่วงหลัง ดร็อปลงไปอย่างน่าใจหาย หลังจากที่เคยคว้าชัยมา 3 นัดรวด พวกเขาก็กลับมาแพ้ 2 นัดติดในลีก ก่อนที่เกมล่าสุดจะเปิดบ้านเจ๊ากับ คริสตัล พาเลซ 1-1 เมื่อคืนวันจันทร์ที่แล้ว
สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ จะยังคงไม่มีกลุ่มแข้งที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด, ฟาเบียน เดลฟ์, อับดูลาย ดูกูเร่, อันเดร โกเมส และ แบร์นาร์ด ขณะที่ อัลลัน ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตอีกครั้ง ส่วนนักเตะตัวหลักรายอื่นๆ ยังฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนาม
แนวรับ 3 คนมี เมสัน โฮลเกต, ไมเคิ่ล คีน และ เบน ก็อดฟรีย์ วิงแบ็ก 2 ฝั่งเป็น เซมัส โคลแมน กับ ลูก้าส์ ดีญ ส่วนแดนกลางใช้ ทอม เดวิส กับ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ประสานงานกัน ขณะที่แนวรุกมี ฮาเมส โรดริเกซ สร้างสรรค์เกมให้ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน กับ ริชาร์ลิซอน ล่าตาข่ายเหมือนเช่นเคย
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ไบรท์ตัน
04 เม.ย. เยือน แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
20 มี.ค. เหย้า ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
14 มี.ค. เยือน ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
06 มี.ค. เหย้า แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
27 ก.พ. เยือน แพ้ เวสต์บรอมวิช 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
เอฟเวอร์ตัน
05 เม.ย. เหย้า เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
20 มี.ค. เหย้า แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (เอฟเอ คัพ)
13 มี.ค. เหย้า แพ้ เบิร์นลี่ย์ 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
08 มี.ค. เยือน แพ้ เชลซี 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
04 มี.ค. เยือน ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
ผลการพบกันนัดล่าสุด
3 ตุลาคม 2563 : เอฟเวอร์ตัน 4-2 ไบรท์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบรท์ตัน : โรเบิร์ต ซานเชซ (GK), เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น, ปาสกาล กรอสส์, อีฟส์ บิสซูม่า, อดัม ลัลลานา, ยาคุบ โมเดอร์, เลอันโดร ทรอสซาร์, นีล โมเปย์, แดนนี่ เวลเบ็ค
เอฟเวอร์ตัน : โรบิน โอลเซ่น (GK), เมสัน โฮลเกต, ไมเคิ่ล คีน, เบน ก็อดฟรีย์, เซมุส โคลแมน, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, ทอม เดวิส, ลูก้าส์ ดีญ, ฮาเมส โรดริเกซ, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน, ริชาร์ลิซอน
บทวิเคราะห์
เจ้าถิ่น นกนางนวล แม้เวลานี้จะยังไม่ได้อยู่ในโซนตกชั้น แต่ก็ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้ ทุกเกมต่อจะนี้ยังคงมีความหมาย และทุกแต้มยังมีความสำคัญต่อการอยู่รอด ทำให้พวกเขาต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเกมที่ได้เล่นในบ้าน
ส่วนทางด้านของทีมเยือนอย่าง เอฟเวอร์ตัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้โชว์ฟอร์มได้ดี จนขึ้นไปเกาะกลุ่มทีมที่มีลุ้นคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทว่าหลังจากที่คว้าได้เพียงแค่แต้มเดียว จาก 3 นัดหลัง ทำให้หล่นลงมารั้งอันดับ 8 ของตาราง แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสของพวกเขายังคงเปิดกว้าง เมื่อตอนนี้มีคะแนนตามหลังทีมอันดับ 4 อยู่เพียง 8 แต้ม ขณะที่ยังลงเล่นน้อยกว่าทีมอื่นๆ อยู่ 2 นัด ซึ่งหาก ทอฟฟี่สีน้ำเงิน คว้า 3 แต้มในเกมนี้ได้ ก็จะทำให้กลับไปมีลุ้นโควต้าดังกล่าวแบบเต็มตัวอีกครั้ง
เชื่อว่าเกมนี้ ทั้ง 2 ทีม น่าจะสู้กันได้สนุก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็ต้องการแต้มด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งฟอร์มในช่วงหลังก็ยังไม่ค่อยแน่นอนเหมือนกัน แต่ด้วยขุมกำลังนักเตะ และแท็คติกของกุนซือทีมเยือน ที่ดูเหนือกว่าอยู่นิดๆ จึงทำให้คาดว่า สุดท้ายแล้ว เอฟเวอร์ตัน น่าจะคืนฟอร์มเก่ง และสามารถบุกไปเบียดคว้า 3 แต้มในเกมนี้ได้สำเร็จ แม้อาจจะต้องเหนื่อยจนถึงท้ายเกมก็ตาม
สกอร์ที่คาด
ไบรท์ตัน 1-2 เอฟเวอร์ตัน
————————————————-
รับชม บอลสด ถ่ายทอดสด ฟุตบอลทุกคู่ ทุกลีกดัง ต้องที่นี้ Trafficfootball : 👉🏻 ดูบอลสด
ดูประวัติข้อมูลและการเคลื่อนไหว วงการฟุตบอล