ศึกพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊ก แมตช์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของเชลซี
เกมนี้ ลิเวอร์พูล ขนชุดใหญ่ลงสนาม แนวรุกนำมาโดยโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กั๊กโป และดิโอโก้ โชต้า ขณะที่เชลซี หวังมาเปิดเกมแลกเช่นเดียวกัน เกมรุกฝากความหวังเอาไว้ที่ โคล พาลเมอร์ , เจดอน ซานโช่ และนิโคลัส แจ็คสัน
เปิดฉากมาเพียง 6 นาที เกมส่อแววดราม่าเลย จากจังหวะที่ โทซิน อดาราบิโอโย่ ทำการตัดฟาวล์คู่แข่งอย่าง โจต้า ในฐานะตัวสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ฝั่งของเชลซี ดันโดนแค่ใบเหลืองเท่านั้น
เกมดำเนินมาถึงนาที 27 ลิเวอร์พูล มาได้ลูกที่จุดโทษ จากจังหวะที่ลีวาย โคลวิลล์ ดันไปทำฟาวล์ ก่อนจะเป็นซาลาห์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้พลพรรค “หงส์แดง” ออกนำ 1-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครั้งแรก ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะที่โรเบิร์ต ซานเชซ ปะทะกับเคอร์ติส โจนส์ อย่างไรก็ตาม VAR บอกว่าซานเชซ ถึงบอลก่อน ทำให้กรรมการกลับคำตัดสินไม่ให้จุดโทษ
จากนั้น สกอร์ไม่มีขยับ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ออกนำเชลซี 1-0
ครึ่งหลังนาที 48 เชลซี ตามตีเสมอ 1-1 จากฝีเท้าของแจ็คสัน ที่รับบอลจากมอยเซส ไคเซโด และหลุดกับดักล้ำหน้า เข้าไปซัดแบบตุงตาข่าย
อย่างไรก็ตาม นาที 51 เจ้าบ้านพลิกออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากการผ่านบอลจากทางขวาของซาลาห์ บอลมาเข้าทางของ โจนส์ จิ้มเข้าประตูไป
จากนั้น ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนเชลซี อย่างสนุก 2-1 จากชัยชนะในเกมนี้ ทำให้ลิเวอร์พูล กลับไปเป็นจ่าฝูงของตารางอีกครั้ง ด้วยการมี 21 คะแนน จากการลงเตะ 8 เกม ขณะที่เชลซี อยู่ในอันดับที่ 6 ด้วยการมี 14 คะแนน จากการลงเตะ 8 เกมเท่ากัน
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล เตรียมบุกไปเยือนแอร์เบ ไลป์ซิก ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธนี้ ขณะที่เชลซี ต้องบุกไปเยือนพานาธิไนกอส ในศึกคอนเฟอเรนซ์ ลีก
