เกมนี้ พลพรรค “ปีศาจแดง” มีการผสมผสานนักเตะตัวจริง กับตัวสำรองเข้าไว้ด้วยกัน โดยแนวรุก วาง 3 ประสานอย่างอาหมัด ดิยัลโล่, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และราสมุส ฮอยลุนด์ โดยมี บรูโน่ แฟร์นันส์ คอยปั้นเกม
เปิดฉากมา 17 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบได้จุดโทษ จากจังหวะที่อาหมัด กระชากเข้าไปถึงเส้นหลัง ก่อนที่จะโดนกองหลังทีมเยือนเบียดล้มลงไป อย่างไรก็ตาม VAR เช็คแล้วว่ายังเบาไปที่จะเป็นจุดโทษ
เกมดำเนินมาถึงนาที 39 พีเอโอเค สวนกลับมาได้อย่างน่ากลัว โมฮาเหม็ด กามาร่า ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ และยิงแบบดีดๆ บอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่อันเดร โอนาน่า ยังพุ่งตัวปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม
จากนั้น ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0
ครึ่งหลังนาที 50 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ บรูโน่ วางบอลยาวเข้าไปที่ในกรอบเขตโทษ บอลมาเข้าหัวอาหมัด ที่สอดตัวไปอยู่ที่เสาสอง โหม่งย้อนทางเข้าไปตุงตาข่าย
นาที 59 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่บรูโน่ แทงทะลุให้กับอาหมัด หลุดเข้าไปล่อเป้าแล้ว แต่ยังยิงไปติดนายทวารทีมเยือน
ถัดมา 5 นาที พีเอโอเค น่าจะได้ประตูตามตีเสมออย่างที่สุด เมื่อบอลลำเลียงมาจากฝั่งซ้าย ก่อนจะตกเข้ากลางมาที่ ทาริค ทิสซูดาลี่ ได้ยิงเหน่งๆแบบไร้ตัวประกบ บอลพุ่งตรงตัวโอนาน่า อย่างน่าเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตาม นาที 77 สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากจังหวะที่อาหมัด ไปปั๊มแย่งบอลกับนักเตะทีมเยือนได้ ก่อนหลุดไปทางฝั่งขวา และลากตัดเข้าใน โดยตัดสินใจกดด้วยซ้ายแบบเต็มข้อ ส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายอย่างสวยงาม
ช่วงทดเจ็บ บรูโน่ แทงบอลออกกราบซ้ายให้กับตัวสำรองอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งกดแบบเน้นๆ ส่งบอลพุ่งหลุดเสาสองไปแบบได้ลุ้นเลย
จากนั้น ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะพีเอโอเค 2-0 คว้า 3 คะแนนเป็นผลสำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้ พวกเขาหลุดเสมอมาตลอด 3 เกมแรก ส่งผลให้ “ปีศาจแดง” เก็บไป 6 คะแนน จากการลงเตะ 4 เกม ขณะที่พีเอโอเค เสมอ 1 และแพ้ 3 เก็บไปเพียงแต้มเดียวเท่านั้น